วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

WEEK 8 : Review/แนะนำการใช้โปรแกรม

           หลายๆคนที่ชอบเล่นเกม ก็คงชอบที่จะดูแข่งเกม หรือ ดูผู้เล่นระดับ Pro player ที่มาสตรีมให้ดู และก็คงมีอยู่หลายคนเหมือนกันที่อยากจะลองสตรีม วันนี้ผมจะมาแนะนำ 1 ในโปรแกรมที่เอาไว้สตรีมบนเว็บถ่ายทอดสด โดยโปรแกรมนี้คือ Open Broadcaster Software

                                           

         Open Broadcaster Software (OBS) เป็นโปรแกรมที่เอาไว้สำหรับถ่ายวีดีโอ และ ไลฟ์สตรีม โปรแกรมนี้ฟรีและค่อนข้างที่จะใช้ง่ายกว่าโปรแกรมถ่ายทอดสดอื่นๆ โดยผมจะบอกวิธีไลฟ์สตรีมแบบง่ายๆให้ครับ โดยผมจะแค่ส่วนที่ควรจะปรับเท่านั้น
           1. ดาวน์โหลดโปรแกรมมาจาก obsproject.com แล้วติดตั้ง


           2. เปิดโปรแกรมขึ้นมาแล้วไปที่ setting


             3. ในหัวข้อ Encoding ผมแนะนำให้ปรับแค่ Max bitrate เพราะอย่างอื่นค่อนข้างจะยุ่งยากสักหน่อยและไม่ค่อยจำเป็นมาก ส่วนจะปรับ bitrate เป็นเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับความเร็ว upload อินเตอร์เน็ตของคุณ


4. ใน  Broadcast Setting จะมีโหมดให้ปรับตั้งค่าระหว่างสตรีมกับการถ่ายวิดีโอ ใน Live Stream Mode จะมีให้เลือ Stream Service หรือเว็บโฮสที่เราจะสตรีมอยู่ ต่อมาเป็น FMS URL เซิฟเวอร์ที่เราจะยิง
สตรีมออกไป และต่อไปเป็น Stream Key โดยเราต้องไปเอามาจากเว็บของ Stream Service ที่เราเลือก
ส่วนที่เหลือเป็นรายละเอียดยิบย่อยครับ ปรับแต่เองได้


5. ที่เหลือจะเป็นในส่วนของการปรับแต่งการไลฟ์สตรีมซึ่งต้องทำความสนใจอยู่สักพักเลยล่ะครับ


มาดูในส่วนของอินเตอร์เฟส



 1.ในกรอบสีน้ำเงินจะเป็นส่วนที่เอาไว้จัดการกับ Scene ต่างๆ ยังเอาไว้เรียง Scene ด้วยว่า เอาอันไหนไว้บนอันไหนไว้ล่าง และ Sources เอาไว้ใส่พวกรูปภาพ ข้อความต่างๆ Overlay หรืออื่นๆ ไว้ใน Scene ที่เราเลือกไว้
2. ในกรอบแดง Setting ก็จะกลับไปตั้งค่าต่างๆแบบข้างบน Edit Scene ไว้ปรับขนาดของ Sources ต่างๆ
Global Resources เป็น Resources ที่เราตั้งไว้แล้วสามารถเอาไปใช้ได้กับทุก Scene และ Plug in สำหรับ Plug in เสริม ส่วนอีกฝั่ง จะเป็นปุ่มไว้เริ่มถ่ายทอดสด อัดวิดีโอ และ ปุ่มไว้สำหรับ preview ดู


วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

WEEK 7: คอมพิวเตอร์ และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์




คอมพิวเตอร์คืออะไร

     คอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ (electrinic device) ที่มนุษย์เราใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการจัดการกับข้อมูลที่อาจจะเป็นทั้ง ตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนความหมายในสิ่งต่าง ๆ โดยคุณสมบัติที่สำคัญของคอมพิวเตอร์คือการที่สามารถกำหนดชุดคำสั่งล่วงหน้าหรือโปรแกรมได้ (programmable) นั่นคือคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับชุดคำสั่งที่เลือกมาใช้งาน ทำให้สามารถนำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งานต่างๆได้อย่างกว้างขวาง เช่น ใช้ในการตรวจคลื่นความถี่ของหัวใจ การฝาก - ถอนเงินในธนาคาร การตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ เป็นต้น ข้อดีของคอมพิวเตอร์ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธภาพ มีความถูกต้อง และมีความรวดเร็ว
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นงานชนิดใดก็ตาม เครื่องคอมพิวเตอร์จะมีวงจรการทำงานพื้นฐานอยู่  4 อย่าง

  1.รับข้อมูล (Input) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการรับข้อมูลจากหน่วยรับข้อมูล (input unit) เช่น คีบอร์ด หรือ เมาส์
  2.ประมวลผล (Processing) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการประมวลผลกับข้อมูล เพื่อแปลงให้อยู่ในรูปอื่นตามที่ต้องการ
  3.แสดงผล (Output) เครื่องคอมพิวเตอร์จะให้ผลลัพธ์จากการประมวลผลออกมายังหน่วยแสดงผลลัพธ์ (output unit) เช่น เครื่องพิมพ์ หรือจอภาพ
  4.เก็บข้อมูล (Storage) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการเก็บผลลัพธ์จากการประมวลผลไว้ในหน่วยเก็บข้อมูล เพื่อให้สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ในอนาคต

ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์คืออะไร

       เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (computer network)  คือ ระบบที่มีคอมพิวเตอร์อย่างน้อยสองเครื่องเชื่อมต่อกันโดยใช้สื่อกลาง และสามารถสื่อสารข้อมูลกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันได้  นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในเครือข่ายร่วมกันได้ เช่น เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น  การใช้ทรัพยากรเหล่านี้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก  เมื่อมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นๆ ที่อยู่ห่างไกล เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทั่วโลก  ก็ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ได้กับคนทั่วโลก โดยใช้แอพพลิเคชั่น เช่น เว็บ อีเมลล์ เป็นต้น

        การสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์มีที่มาจากผู้ที่ต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว คอมพิวเตอร์นั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการประมวลข้อมูลในปริมาณมากได้อย่างรวดเร็ว แต่มีข้อเสียคือ ผู้ใช้ไม่สามารถแชร์ข้อมูลกับคนอื่นๆได้ ดังนั้น ก่อนมีการสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันโดยการ พิมพ์(print) ข้อมูลออกมาเป็นเอกสารก่อนแล้วค่อยนำไปให้ผู้ใช้ที่ต้องการใช้หรือแก้ไขข้อมูลอีกคนหนึ่ง ซึ่งทำให้เสียเวลาและเป็นวิธีที่ยุ่งยากมากเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบันที่มีการใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์แล้ว

        การทำสำเนา(copy) หรือ บันทึก(save) ข้อมูลลงในแผ่นดิสก์(floppy disk) แล้วส่งให้คนอื่นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมใช้กันก่อนที่จะมีการสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และนับว่าเป็นวิธีที่เสียเวลาและยุ่งยากน้อยกว่าการส่งเป็นแผ่นกระดาษ เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการแปลงข้อมูล เพราะคอมพิวเตอร์สามารถอ่านข้อมูลในแผ่นดิสก์ได้เลย การใช้คอมพิวเตอร์ลักษณะนี้เรียกว่า sneakernet หรือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีคนเป็นสื่อรับส่งข้อมูล การใช้เครือข่ายแบบ sneakernet นี้ ถือว่ายังช้ามากเมื่อเทียบกับความเร็วของคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันการใช้คอมพิวเตอร์ลักษณะนี้ก็ยังมีการใช้กันอยู่บ้างในองค์กรที่ไม่มีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

           การใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กันโดยสายสัญญาณ การถ่ายโอนข้อมูลระหว่างเครื่องจะเร็วมากเนื่องจากการเดินทางของข้อมูลผ่านสายสัญญาณนี้ จะมีความเร็วเกือบเท่าความเร็วแสง เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์จะอยู่ห่างกันแค่ไหน การแลกเปลี่ยนข้อมูลก็จะเร็วกว่าการใช้แผ่นดิสก์มาก เครือข่ายแบบนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ที่มา
http://guru.sanook.com/2287/
https://sites.google.com/site/wiparat0001/bth-thi-hnung

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

WEEK 6 : วิเคราะห์ข้อสอบ O-net คอมพิวเตอร์

1 ) ลิขสิทธิ์โปรแกรมประเภทรหัสเปิด (Open Source) อณุญาตให้ผู้ใช้ทำอะไรได้บ้าง
          ก. นำโปรแกรมมาใช้งานโดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์
          ข. ทดลองใช้โปรแกรมก่อน ถ้าพอใจจึงจ่ายค่าลิขสิทธิ์
          ค. แก้ไขปรับปรุงโปรแกรมเองได้
      1. ข้อ ก. กับ ข้อ ค.
      2. ข้อ ข. กับ ข้อ ค.
      3. ข้อ ข. อย่างเดียว
      4. ข้อ ก. อย่างเดียว

วิเคราะห์
        Open Source คือ ตัวโปรแกรม ซอฟต์แวร์ ที่เกี่ยวกับ การออกแบบและพัฒนา วัตถุประสงค์หลักคือ เป็นตัวโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้นาไปใช้งานและอาจพัฒนาตัวโปรแกรมต่อได้ ส่วนใหญ่ Open Source จะเป็นโปรแกรมที่แจกฟรี จึงกลายเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายและรวดเร็วสาหรับในบ้านเรา ที่นิยมใช้งาน Open Source นั้น มีตั้งแต่เว็บในกลุ่มที่จัดทาโดยบุคคล เช่นพวก เว็บแฟนคลับ เว็บ community ต่างๆ ไปจนถึงเว็บในรูปแบบบริษัท องค์กร ห้างร้าน ส่วนตัวโปรแกรม Open Source ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Joomla ต่างๆ Word Press Drupal PHP nuke SMF PHPbb เป็นต้น

2 ) ระบบกระดานสนทนาหรือเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งมีความต้องการดังนี้
           ก. ต้องการให้ผู้ใช้สามารถตั้งกระทู้โต้ตอบกันได้โดยผู้ใช้ต้องแสดงตัวตน (ล็อคอิน) เพื่อเข้าระบบก่อน
           ข. ผู้ใช้สามารถตั้งกระทู้หรือเข้าไปตอบกระทู้ที่ตั้งไว้แล้วได้
           ค. ระบบจะบันทึกชื่อผู้ตั้งและผู้ตอบไว้ด้วย
 ในการออกแบบฐานข้อมูลสำหรับระบบดังกล่าว ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง
       1. ต้องสร้างตารางผู้ใช้ ตารางกระทู้ และตารางคำตอบ
       2. ไม่ต้องสร้างตารางผู้ใช้ เนื่องจากสามารถบันทึกชื่อผู้ใช้ตารางกระทู้และตารางคำตอบได้เลย
       3. ต้องสร้างตารางผู้ใช้ และตารางกระทู้ ส่วนคำตอบจะอยู่ในตารางกระทู้อยู่แล้ว
       4. ไม่ต้องสร้างตารางกระทู้ เพราะสามารถบันทึกกระทู้ที่ผู้ใช้ตั้งในตารางใช้ได้เลย

วิเคราะห์
        เป็นความรู้เกี่ยวกับการสร้างฐานข้อมูลบนกระดานสนทนา ต้องสร้างตารางเก็บข้อมูลของผู้ใช้ ตารางสาหรับตั้งกระทู้ และตารางคาตอบของผู้ตอบ

3 ) ข้อใดเป็นการปฎิบัติที่ถูกต้องตามหลักวิชาการเมื่อค้นคว้าหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาทำรายงาน
       1. คัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์
       2. ใช้เนื้อหาจากกระดานสนทนา (web board) มาใส่ในรายงาน
       3. นำรูปภาพจากเว็ไซต์มาใส่ในรายงาน
       4. อ้างอิงชื่อผู้เขียนบทความ

วิเคราะห์
        การทารายงาน เมื่อนักเรียนสืบคืนข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตแล้วพบข้อมูลที่ต้องการแล้ว หากมีการนาข้อความหรือข้อมูลจากเว็ปไซต์นั้นมาใช้ แล้วก็ควรที่จะมีการสรุปเนื้อหาด้วย และที่สาคัญควรจะอ้างอิงถึงชื่อผู้ที่ให้ข้อมูลเราเป็นการขอบคุณด้วย

4 ) ห้องสมุดแห่งหนึ่งต้องการพัฒนาระบบการยืมหนังสือโดยสามารถบันทึกข้อมูลการยืมหนังสือลงบนบัตรอิเลคโทรนิคส์โดยไม่ต้องเขียนด้วยมือ ระบบนี้ควรใช้เทคโนโลยีในข้อใด
       1. Smart Card
       2. Fingerprint
       3. Barcode
       4. WiFi

วิเคราะห์
         Smart Card ก็พวกบัตรต่างๆ เครดิต เอทีเอ็ม Fingerprint เป็นระบบแสกนลายนิ้วมือ Barcode ก็ใช้เครื่องยิงไปที่แถบบาร์โค๊ดเพื่ออ่านข้อมูลแบบห้องสมุดโรงเรียนเรา WiFi คือ ระบบอินเตอร์เน็ตไร้สาย ข้อนี้จากคาถามแล้วควรจะใช้ Barcode อ่านข้อมูลจากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ตอบ ข้อ 3

5 )  ผู้ประกอบอาชีพเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ต้องเชี่ยวชาญความรู้ด้านใดบ้างจากตัวเลือกต่อไปนี้
           ก. ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์                                       ง. HTML
           ข. ระบบปฎิบัติการ                                                 จ. ระบบฐานข้อมูล
           ค. เว็บเซร์ฟเวอร์                                                    ฉ. ภาษาจาวา (Java)

วิเคราะห์
        ผู้พัฒนาเว็ปไซต์หรือเรียกกันเท่ห์ๆว่า เว็ปมาสเตอร์ คนเขียนเว็ป ควรจะมีความรู้ด้านใดละ ด้านฮาร์ดแวร์ คือ ด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆที่มันจับต้องได้ โยนใส่หัวแล้วหัวแตกนั่นแหละคือฮาร์ดแวร์ ด้านซอฟแวร์ คือ เกี่ยวกับโปรแกรมต่างๆในเครื่อง เกมส์ ที่ชอบเล่นนั่นแหละ ระบบปฏิบัติการ คือ โปรแกรมควบคุมการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows ต่างๆ เว็ปเซิฟร์เวอร์ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้บริการพื้นที่เว็ปเว็ปไซต์ต่างๆ HTML เป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนเว็ปไซต์ ยังมีพวก ASP , PHP ,Java ด้วยนะ ระบบฐานข้อมูล ก็เช่น หากต้องการสร้างเว็ปไซต์ที่เว็ปฐานข้อมูลด้วยก็ต้องมีความรู้เรื่องนี้ด้วย ภาษาจาวา ก็เป็นภาษาที่ใช้เขียนสคลิปบนเว็ปไซต์ด้วย เช่น สั่งให้ตัวอักษรวิ่ง กระพริบ

                                 

ที่มา :
www.wanyai.ac.th/OnetT6

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

WEEK 5 : สิ่งที่นักเรียนสนใจ(2)

OSAKA เที่ยวไปกินไป
       เมื่อปีก่อนคุณย่ากับคุณอาของผมได้มีโอกาศไปเที่ยวญี่ปุ่น เลยได้ไปจังหวัดนู้น จังหวัดนี้แล้วก็ไม่พ้นกับจังหวัดโอซาก้านี้ พอกลับมาก็มาโม้ว้าได้กินขาปูโอซาก้าที่โด่งดังด้วย ผมเลยมีโอกาศที่จะได้หาข้อมูลไว้บ้าง เผื่อจะได้ไปบ้างสักวัน

                                 

         โอซาก้า (ญี่ปุ่น: 大阪 Ōsaka ) เป็นนครในภาคคันไซของเกาะฮนชู ตั้งอยู่ในจังหวัดโอซาก้า จัดเป็นนครในเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 และเป็นนครที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น และเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของสามนครใหญ่เคฮันชิง โดยรัฐบาลญี่ปุ่นนั้นได้จัดตั้งให้โอซาก้า เป็นหนึ่งในหลายเมืองของประเทศที่มีเขตการปกครองรูปแบบพิเศษ
          เมืองโอซาก้ามีประชากรทั้งหมดประมาณ 2.7 ล้านคน แต่ในช่วงเวลาทำงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.7 ล้านคน ซึ่งเป็นรองเพียงแต่โตเกียวเท่านั้น อัตราส่วนประชากรกลางวันต่อกลางคืนเท่ากับ 141 เปอร์เซ็นต์ นครตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำโยะโดะ อ่าวโอซะกะ และทะเลเซะโตะ
          โอซาก้าเป็นเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ ทั้งการค้าและวัฒนธรรมเมืองหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น มีสมญาว่า ครัวของชาติ (天下の台所( Tenka no Daidokoro )?) เพราะเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวของญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเอะโดะ และปัจจุบันเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเมืองหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น

                             

            เมืองโอซาก้าตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำทางตะวันตกของแม่น้ำโยะโดะ ริมอ่าวโอซะกะ ล้อมรอบด้วยเมืองเล็กกว่าสิบเมืองในจังหวัดโอซะกะ มีพื้นที่คิดเป็นร้อยละ 13 ของจังหวัดโอซะกะ โดยสมัยก่อตั้งเมืองในปี 1880 เมืองโอซาก้าแบ่งออกเป็นสองเขตคือ ชูโอะ และ นิชิ มีพื้นที่เพียง 15.27 ตารางกิโลเมตร และปัจจุบัน เมืองเติบโตจนมีพื้นที่ 222.30 ตารางกิโลเมตร โดยการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1925 เมื่อเมืองได้มีการขยายพื้นที่ออกไปอีก 126.01 ตารางกิโลเมตร จุดที่สูงที่สุดของเมืองโอซะกะอยู่ในเขตสึรุมิ ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 37.5 เมตร และจุดที่ต่ำที่สุด อยู่ที่เขตนิชิโยะโดะงะวะ ความสูงต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 2.2 เมตร
            และถ้าพูดถึงโอซาก้าแล้ว ไม่พูดถึงเรื่องของกินก็คงไม่ใช่ โอซาก้าเป็นแหล่งค้าส่งและค้าปลีกขนาดใหญ่ มีร้านค้าส่ง 25,228 ร้านและร้านค้าปลีก 34,707 ร้านในปี พ.ศ. 2547 ร้านค้าส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตชูโอะ (10,468 ร้าน) และเขตคิตะ (6,335 ร้าน) มีร้านค้าหลายรูปแบบตั้งแต่ โชเตงไก(商店街) แบบดั้งเดิมไปจนถึงห้างสรรพสินค้าบนดินและใต้ดิน โชเตงไกเป็นรูปแบบของร้านแบบดั้งเดิมที่พบได้ทั่วญี่ปุ่น และโอซะกะมีโชเตงไกที่ยาวที่สุดในโลกอยู่ที่ เทนจินบะชิ ความยาว 2.6 กิโลเมตร ขายสินค้าหลากหลายตั้งแต่ของใช้ภายในบ้าน เสื้อผ้า ตลอดจนอาหารเลี้ยงสัตว์
            พื้นที่สินค้าอีกแห่งหนึ่งที่สำคัญคือ เดนเดนทาวน์ เป็นแหล่งรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และการ์ตูน/อะนิเมะที่สำคัญของโอซาก้า คล้ายกับย่านอะกิฮะบะระของโตเกียวที่ได้พูดไปเมื่อคราวก่อน ส่วนย่านอุเมะดะเป็นแหล่งรวมห้างสรรพสินค้าและห้างโยะโดะบะชิคาเมร่า อันเป็นห้างสรรพสินค้าด้านอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังของญี่ปุ่น

                     
             โอซาก้า ขึ้นชื่อในเรื่องของเมืองอาหาร ทั้งอาหารญี่ปุ่นและจากนานชาติ โดยนักเขียนอย่างไมเคิล บูธ และฟรองซัวส์ ไซมอน นักวิจารณ์อาหารชื่อดังของหนังสือพิมพ์เลอฟิกาโร บอกว่า โอซะกะเป็นเมืองหลวงด้านอาหารของโลก โดยผู้ที่ชื่นชอบอาหารโอซะกะคงจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า "เคียวโตะซื้อเสื้อผ้าขนหมดตัว โอซะกะซื้ออาหารจนหมดตัว"

ที่มา
https://en.wikipedia.org/wiki/Osaka
http://www.osaka-info.jp/en/